เมนู

ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. ชรามรณะแห่งสติปัฏฐาน แห่งสัมมัปปธาน แห่ง
อิทธิบาท แห่งอินทรีย์ แห่งพละ ฯลฯ ชรามรณะแห่งโพชฌงค์ ก็เป็น
โพชฌงค์ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1621] ป. ไม่พึงกล่าวว่า ชรามรณะแห่งโลกุตตรธรรมก็เป็น
โลกุตตระ หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. เป็นโลกิยะ หรือ ?
ส. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ป. ถ้าอย่างนั้นก็เป็นโลกุตตระ น่ะสิ.
ชรามรณกถา จบ

อรรถกาชรามรณกถา



ว่าด้วย ชราและมรณะ



บัดนี้ ชื่อว่าเรื่องชราและมรณะ. ในเรื่องนั้น ธรรมดาว่า ชรา
และมรณะไม่ควรกล่าวว่าเป็นโลกีย์หรือโลกุตตระ เพราะมิใช่เป็นสภาวะ
ที่สำเร็จแล้ว คือมิใช่เป็นสภาวะที่เกิดขึ้นแล้วเหมือนธรรมทั้งหลายมีรูป
เป็นต้น. จริงอยู่ในทุกมาติกาว่า โลกิยา ธมฺมา โลกุตฺตรา ธมฺมา ดังนี้
ชราและมรณะไม่สำเร็จในโลกิยบท ได้แก่ จิต 81 เจตสิก 52 รูป 28
และโลกุตตรบท ได้แก่ โลกุตตรจิต 8 เจตสิก 36 นิพพาน. ในปัญหานั้น

ชนเหล่าใด มีความเห็นผิดดุจลัทธิของนิกายมหาสังฆิกะทั้งหลายว่า ชรา
และมรณะของโลกุตตรธรรมเป็นโลกุตตระ เพราะไม่ถือเอาสภาวะนี้
คำถามของสกวาทีหมายถึงชนเหล่านั้น คำตอบรับรองเป็นของปรวาที.
คำที่เหลือในที่นี้ พึงทราบตามพระบาลีนั่นแล.
อรรถกถาชรามรณกถา จบ

สัญญาเวทยิตกถา



[1622] สกวาที สัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติเป็นโลกุตตระ หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. เป็นมรรค เป็นผล เป็นนิพพาน เป็นโสดาปัตติมรรค
เป็นโสดาปัตติผล ฯลฯ เป็นโพชฌงค์ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ป. ไม่พึงกล่าวว่า สัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติเป็น
โลกุตตระ หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. เป็นโลกิยะ หรือ ?
ส. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ป. ถ้าเช่นนั้นก็เป็นโลกุตตระ น่ะสิ.
สัญญาเวทยิตกถา จบ

อรรถกถาสัญญาเวทยิตถา



ว่าด้วย สัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติ



บัดนี้ ชื่อว่าเรื่องสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติ คือสมาบัติที่ดับ
สัญญาเวทนา. ในเรื่องนั้น ธรรมอะไร ๆ ชื่อว่าสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติ
หามีไม่ มีแต่ความดับขันธ์ทั้ง 4 เพราะฉะนั้นสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติ
นั้น จึงไม่ใช่โลกีย์ ไม่ใช่โลกุตตระ ก็ชนเหล่าใดมีความเห็นผิดดุจลัทธิ
นิกายเหตุวาทนั่นแหละว่า สัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติไม่เป็นโลกีย์
เพราะเป็นโลกุตตระ ดังนี้ คำถามของสกวาทีหมายถึงชนเหล่านั้น คำ
ตอบรับรองเป็นของปรวาที. คำที่เหลือเช่นกับเรื่องก่อนนั่นแหละ.
อรรถกถาสัญญาเวทยิตกถา จบ